วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552

เพราะร่มแท้ๆ



สมัยที่เรียนอยู่ปี 3 มีประสบการณ์อันน่าขำเกี่ยวกับร่ม ร่มที่เราใช้กางนี่แหละ ตอนที่เรียนนั้นเราเป็นคนที่ขาดร่มไม่ได้ ไปเรียน 8 โมงออกจากหอปุ๊บ กางร่มปั้บ แต่เวลาขึ้นสะพานลอย หรือข้ามถนนมักจะปิดร่มก่อน กางร่มในมหาลัยถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับทุกคน เพราะทุกคนจะมีร่มส่วนตัวทั้งนั้นรวมทั้งเราด้วย


ร่มที่ใช้ก็เป็นร่มของมหาลัยซื้อมาราคา 160 บาท ถือว่าแพงน่ะ แต่อยากได้โลโก้มหาลัยติดบนร่มนี่เลยต้องซื้อ เรื่องที่เกิดขึ้นมันมีอยู่ว่า




เมื่อตอนเปลี่ยนคาบเรียน เราเปลี่ยนตึกเรียนจากตึกคณะศึกษาฯ ไปตึกคณะวิทย์ ระยะทางก็ไม่ไกลมาก เดินแค่ 5 นาทีก็ถึง บวกกับรอลิฟท์ 5 นาที ก็พอดีถึงเวลาเรียน แต่วันนั้นเราก็เดินกับเจ๊เพื่อนสนิทเรานี่แหละแต่บังเอิญว่า มีเพื่อนคนนึงใจดีรับเราสองคนขึ้นรถมอไซด์ไปด้วย เราก็เออได้อ่ะ ขี้เกียจเดิน เราก็ให้เจ๊ขึ้นก่อนเราก็ปิดท้าย ซ้อนสาม เราขี้เกียจปิดร่มอ่ะ เลยขึ้นนั่งแบบผู้หญิงแล้วกางร่ม เพื่อนถามเราว่า ไอ้ยังแกไม่ปิดร่มหรอ เราบอกว่า ไม่เป็นไรน่าแป๊บเดียวเอง แล้วมอไซด์ก็วิ่งไป ความเร็วประมาณ 40 มั้ง แต่วันนั้นเรารู้สึกลมแรงมาก มอไซด์วิ่งสู้ลม เราถือร่ม ก็รู้สึกว่า เฮ้ย ร่มกำลังจะปลิวก็พยายามจับแน่น ไม่อยากให้ร่มหลุดมือ จับได้แปบนึงรู้สึกว่าร่มจะหลุดก็พยายามจับไว้ สุดท้ายตัวเองก็ลอยไปพร้อมร่มออกจากเบาะมอไซด์ ลอยไปตกกลางถนน โดยที่เราเอาหัวกระแทกพิ้นเต็มๆ เหตุการณ์มันเกิดเร็วมาก จำได้แต่ว่าร่มลากเราไป เราก็ลอย แล้วไปตกแหมะกลางถนน




ความรู้สึกแรก มึนหัวมาก เพราะหัวลงไปเต็มๆก่อนตัวซะอีก มีผู้ชายที่เดินแถวนั้นวิ่งมาจะช่วยเราลุกขึ้นเดินแต่ด้วยความที่เรามึนๆเลยยืนมึนๆ เพื่อนที่นั่งมาหยุดรถแล้วมองค้าง อึ้ง แล้วบอกว่า แกจะเฉยทำไมไอ้ยังตกมอไซด์ไปช่วยดิ แล้วเพื่อนก็จอดมอไซด์วิ่งมาประคองเรา ถามว่าเป็นไงบ้าง เราตอบว่า เจ็บหัวอ่ะ ทีนี้เราคลำหัวเรา โหหหห หัวโนเท่าลูกส้มเลย เท่านั้นแหละ เราร้องให้ไม่อายเพื่อนเลย พูดแต่ว่า เจ็บๆๆๆๆๆ


เพื่อนก็หน้าซีดเพราะโดนหัวเต็มๆ รีบพาไปห้องพยาบาล บอกอาการให้เจ้าหน้าที่รู้ เขาจับหัวดูบอกว่า โหหห หัวโนมากเลย ไปๆๆๆไปนอนซะเด่วจะปฐมพยาบาลให้ ระหว่างที่เอานำแข็งมาประคบ เขาก็ถามเราต่างๆนาๆ ว่า หนูอยู่ที่ไหน หอพักหนูอยู่ซอยอะไร ในห้องมีอะไรบ้าง หนูเรียนคณะอะไร ก็ตอบๆไป ไม่ทันนึกว่าเขากำลังทดสอบความจำเราอยู่ สุดท้ายเขาก็บอกว่า อืมไม่มีอะไรความจำยังดี แล้วเราก็จรลีไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจหัวที่โนอีกครั้ง จำได้ว่า หวีผมไม่ได้เลย นอนตะแคงไม่ได้เลย ตั้งหลายสับดาห์น่ะกว่าจะยุบ โทรบอกที่บ้าน เขาก็มากันทั้งบ้าน ทั้งๆที่เรายังหัวเราะเลยหลังจากเกิดเหตุการณ์ ยาที่หมอให้ไม่กล้ากิน เพราะกินแล้วจะง่วง กลัวอ่านหนังสือไม่ได้ เพราะใกล้สอบ ผลก็คือ หัวที่โนนั้นยุบลงไม่หมดถึงตอนนี้ก็ยังมีปุ่มแข็งๆอยู่บนหัวอีก เวลาจับแล้วกดก็จะรู้สึกเจ็บอยู่




เรื่องสอนให้รู้ว่าอย่ากางร่มเวลาขึ้นมอไซด์เพราะอาจเกิดแบบเราก็ได้ หลังจากนั้นเราก็เข็ดขึ้นมอไซด์ เวลาฝนตกยอมเปียกมากกว่ากางร่ม 555555


ไม่มีความคิดเห็น: